รูปแบบการเคลื่อนที่ของกราฟ |
รูปแบบของกราฟ แบบต่างๆ |
เมื่อรู้แล้วว่ากราฟมีลักษณะการเคลื่อนที่เป็น วัฎจักรตามรูป ต่อไปสิ่งที่ต้องทำก็ คือ การออกแบบระบบเทรดตาม จุดของกราฟขึ้นและลง
ต่อมาทำความเข้าใจเรื่องของคลื่นใน สภาวะต่างๆ มีด้วยกัน 3 สภาวะ คือ
- สภาวะ side way
- สภาวะเทรนขาขึ้น ( up trend )
- สภาวะเทรนขาลง ( down trend )
cycle |
up trend |
down trend |
ต่อมาเมื่อแยกเทรนจาก t/f .ใหญ่ออกมาได้แล้ว ก็เข้าไปดูการสรา้งคลื่นภายใน t/f ที่เล็กกว่าว่าในสภาวะของเทรนต่างๆการสรา้งคลื่นในมุมของ Elliott wave มีลักษณยอย่างไรบ้างเพื่อ หาจุดเทรดตามคลื่นที่เกิดขึ้น
คลื่นที่เกิดในเทรนแต่ละเทรนก็จะแยกออกมาได้ 3 รูปแบบ
- ภาวะ side way
- จะเห็นการสร้างคลื่นที่เป็นแบบ flat ก็ คือ ระยะทางของการสร้างขาละขาลงจะเท่ากัน ละเกิดคลื่นเพียง 3-4-5 เท่านั้นไม่ค่อยเห็น คลื่น 1-2 เพราะเป็นช่วง sw การสร้างคลื่น จะสั้นขึ้นละลงจะเท่ากัน แต่จะเกิด หลายลูกเพราะเป็นช่วงที่แรงซื้อละแรงขายเท่ากัน ฉะนั้น ทั้ง 2 ฝั้งก็จะสร้างคลื่นออกมาเมื่อขึ้นไปชนแนวต้านก้มีแรงขายออกมากลายเป็นขาลง แต่เมื่อราคาลงมาชนแนวรับก็จะมีรงซื้อกลับเช่นกัน สลับกันไป จึงเห็นคลื่นที่ถูกสร้างในช่วงนี้ที่เรียกว่า flat การสรา้งคลื่นขาขึ้นและขาลงจะเท่ากัน
2.ภาวะที่เป็นเทรนขาลง ( down trend )
- ในเทรนขาลงจะมีแรงขายมากกว่าแรงซื้อ ฉะนั้นจะเห็นการสร้างคลื่นขาขึ้นสั้นๆ ติดแนวต้านก็จะมีแรงขายออกมาแล้วเกิดขาลงยาวกว่าเสมอ ฉะนั้นจะสรุปได้ว่าเมื่อคลื่นเกิดในเทรนขาลง คลื่นฝั่งลงจะถูกขยายให้ยาวกว่าคลื่นฝั่งขึ้นนั้นเอง จึงเห็นคลื่นใน down trend ฝั่งลงจะยาวกว่าฝั่งขึ้นเสมอ
3.ภาวะ ที่เป็นเทรนขาขึ้น ( up trend )
- ในเทรนขาขึ้น ก็จเห็นการสร้างคลื่นขาขึ้นยาวกว่าขาลง คือ จะมีแรงซื้อมากกว่าแรงขาย คลื่นฝั่งขึ้นจึงวิ่งได้ยาวกว่าฝั่งลง ตามรูปเมื่อลงมาชนแนวรับก็จะย่อไมลึกแล้ววิ่งขึ้นต่อเลย จะตรงข้ามกับเทรนขาลง
คลื่นทีเกิดในเทรนแต่ละแบบ ขึ้น, ลง, sw |
ต่อมาต้องมาเข้าใจเรื่อง Time frame ซะก่อนถึงจะหาจุดเข้าสถานะที่ถูกต้องได้ และเรื่องของคลื่นในมุมของ elliott wave
ตัวอย่าง กราฟ XAUUSD
คลื่นใน t/f month |
และภาพโดยรวม กำลังทำคลื่น 1 ย่อคลื่น 2 อยู่เมื่อรู้ว่า คลื่นใน t/f month ทำขา 3 อยู่ต่อไปต้องย่อ ขา 4 แล้วขึ้นขา 5 แต่ช่วงย่อขา 2 อาจจะทำคลื่นไม่ครบชนแนวต้านแล้วอาจจะลงเลยก็ได้ เพราะยังไม่ใช่ช่วงที่จะวิง่เป็นเทรนขึ้นไป เพราะยังอยู่ในช่วงของการ sub แรงอยู่ยังวิ่งขึ้นเป้นเทรนไม่ได้
ต่อไป เอาภาพกราฟ week มาขยายดูคลื่นภายในว่าตอนนี้ คลื่นในกราฟ week ขึ้นครบคลื่นรึยัง หรือ อยู่ในช่วงคลื่นอะไร อยู่
คลื่นภานใน t/f week |
เอากราฟ Week มานับคลื่นเทียบ Month |
คลื่นภายในของกราฟ week
นับได้ 5 คลื่นแล้วฉะนั้นต้องย่อ ทำ abc ที่นี้ก็มาดูต่อทิศทางที่เป็นไปได้ของกราฟ week ที่เป็นไปได้มีกี่แบบ ซึ่งรูปแบบที่เป็นไปได้มี 2 แบบ คือ
- ลงทำ abc ติดแนวรับ 1276 แล้วกลับตัวขึ้นเพื่อทำคลื่น 4 แล้ว sub แรงขายเพื่อทำคลื่น 5 ต่อ
- ลงทำ abc และทำขา c ยาวลงไปที่แนวรับ 1222 กลายเป็น กราฟเคลื่อนที่อยู่ในกรอบยังไม่สามารถเคลื่อนขึ้นเป้นเทรนได้
ลำดับต่อไป ก็เข้าไปดูใน t/f day
เพื่อนับคลื่น ว่าตอนนี้ t/f day อยู่ในช่วงของคลื่นอะไร
คลื่นที่นับใน t/f day |
ซึ่งใน t/f day นับคลื่นที่กำลังทำอยู่ในช่วงของคลื่น 5 ขาลงซึ่งถ้าเป็นคลื่น ก็แสดงว่าใกล้จุดกลับตัวแล้วก็เข้าไปดูว่าแนวรับ ที่มี demand มากๆเพียงพอที่จะกลับตัวได้อยู่ตรงไหน ซึ่งเมื่อเข้าไปหา แนว deamnd ที่จะสามารถกลับตัวได้อยู่ที่แนวรับ 1282 ก็เข้าไปดูคลื่นจากกราฟ H4 เพื่อดูว่าใน H4 ที่แนวรับ นี้มีพฤติกรรม ของการกลับตัวหรือไหม
กราฟนับคลื่นภายใน H4 |
ภาพที่เอา H4 มาดูช่วงแนวรับที่เป็นแนวกลับตัว |
- ลงมาครบคลื่นฝั่งลงแล้ว
- ติดแนวรับสำคัญที่มี deamnd เพียงพอที่สามารถจะกลับตัวได้
- เกิด sw sub แรงขายที่แนวรับนี้
ลำดับขั้นตอนต่อไปก็เข้าไปดูที่ T/F H1 เพื่อดูการเคลื่อนตัวของ demand & supply ที่แนวรับว่าจะสามารถกลับตัวได้ไหม หรือจะลงต่อ เพราะลงครบคลื่นใน T/F H4 แล้วติดแนวรับสำคัญ
คลื่นและแนวรับที่เกิดการ sub แรงขาย |
ต่อไปก็เฝ้าดูแรงซื้อและแรงขายที่แนวรับนี้ว่าจะสามารถกลับตัวเด้งขึ้นจากแนวรับทีมี demand จำนวนมาก พฤติกรรมอของกราฟที่วิ่งขึ้นอยู่ในกรอบเป็นอย่างไร
ภาพขยายคลื่นใน H1 |
เมื่อหาแนวรับสำคัญที่มี demand เพียงพอที่จะกลับตัวได้แล้วเข้าไปดูแนวรับแนวต้านและแรงซื้อแรงขายผ่านกราฟ H1 ถ้ายังไม่ละเอียดพอก็เข้าไปที่ T/F ที่เล็กกว่าต่อ ในที่นี้พรานล่าหุ้นใช้ T/F 5 นาทีเป็น T/F ที่เล็กที่สุดที่เอาไว้ดูพฤติกรรมของแรงซื้อและแรงขายผ่านแนวรับและแนวต้านสำคัญ ว่าจะมีพฤติกรรม ลงต่อ หรือ sw sub แรงขายได้และสามารถเปลี่ยนเทรนได้
เฝ้าดูพฤติกรรมจากกราฟ 5 นาที |
ขยายภาพ M5 เพื่อสังเกตุพฤติกรรมการกลับตัว |
พฤติกรรมที่มีโอกาสกลับตัวได้สำเร็จ
- ลงมาครบคลื่นใน t/f day
- ติดแนวรับที่มี deamnd มากพอที่จะกลับตัวได้
- เกิดการเด้งขึ้นของราคาด้วย volume จำนวนมากและ การสรา้งคลื่นได้สูงขึ้นกว่าปกติ
- เกิดการ sub แรงขายจากแนว supply ลงมาที่แนวรับแล้วไม่หลุด low หรือ ยก low ขึ้น
- เห็นการบีบตัวของกรอบราคา แล้วแรงซื้อสามารถดันราคาทะลุกรอบขึ้นมาได้
- เห็นการ sub แรงขายจากแนวต้านที่มี supply แต่ลงมาติดแนวรับที่ยก low ขึ้นแล้วก็กลับตัวขึ้นต่อได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น