หน้าเว็บ

วันเสาร์, มิถุนายน 09, 2561

Top down analysis


ภาพประกอบการพิจารณาการวิเคราะห์แบบ Top down ในตลาดหุ้น























cycle เศรษฐกิจ


กลุ่มขนส่งและโลจิสติกส์
กลุ่มขนส่งและโลจิสติกส์
Sentiment ที่กระทบต่อกลุ่มนี้

  • กลุ่มเดินเรือจะเห็นหุ้นที่กำไรเพิ่มขึ้นสูงส่วนหนึ่งมาจากค่าระวางเรือที่ปรับตัวสูงขึ้น 
  • กลุ่มสายการบินกำไรจะเปลี่ยนแปลงจากการปรับเพิ่มของราคาน้ำมัน

ท่องเที่ยว

อะไรที่มีผลต่อกลุ่มนี้

1.Sentiment จากกระแสข่าวต่าง ๆ โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับนักท่องเที่ยว

2.ไฮซีซั่นปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้า


กลุ่มรับเหมา

CK STEC UNIQ ITD

  • การเดินหน้าลงทุนโครงการโครงสร้างพื้นฐาน ภาครัฐ
  • งานก่อสร้างภาคเอกชน
  • งานในมือ (backlog) 


Property Sector 
Sentiment ที่มีผลต่อราคาหุ้น
  • ยอด Presales
  • Backlog ในมือ
  • เปิดโครงการใหม่
  • SG&A (ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร)
  • ยอดส่งมอบ
  • มาตรการธปท.LTV
  • แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น
  • อุปสงค์ และอุปทานเปิดใหม่


กลุ่มค้าปลีก

  • มาตรการกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยจากภาครัฐ
  • Same Store Sales Growth (SSSGคือ การเติบโตของยอดขายสาขาเดิม
  • ขยายสาขา
  • ขยายช่องทางการสร้างรายได้เพิ่ม



อุตสาหกรรมเกษตร
  • การส่งออก
  • ความต้องการบริโภคในตลาดโลก
  • ราคาสินค้าเกษตร
  • อากาศเอื้ออำนวยและปริมาณน้้าเพียงพอ
  • ความต้องการบริโภคที่เติบโต
  • ต้นทุนวัตถุดิบ เช่นปลาทูน่า

หุ้นธนาคาร 


ผลต่อมุมมองรายได้



วิเคราะห์ตามข้อมูล
  • ถ้าคนทำงานทั่วไปมีรายได้เพิ่มขึ้น ( Nonfarm Payroll ) จะทำให้กลุ่มสินค้าคงทน ( durable goods )ขายดีขึ้น เช่น 
          - บ้าน รถ เครื่องใช้ไปไฟฟ้า
          - สินค้าฟุ่มเฟือยต่างๆ
    • ถ้ากลุ่มเกษตรมีรายได้ดีขึ้น พวก ค้าปลีกจะขายได้ดีขึ้นเพราะเกษตรกร เอาเงินที่ได้มาจับจ่ายไปกับของกินของใช้ เป็นหลัก 

    ราคาน้ำมันดิบ ลง 
    หุ้นกลุ่มไหนที่ได้รับผลกระทบด้าน ลบ : ราคาหุ้นอาจจะลง
    1. กลุ่มสำรวจและผลิตน้ำมัน - ราคาขายลดลง มีขาดทุนในเงินลงทุน และขาดทุนในสต็อก - PTTEP, PTT

    3. กลุ่มปิโตรเคมี - ราคาผลิตภัณฑ์มีแนวโน้มลดลงเพราะต้นทุนวัตถุดิบพ่วงอยู่กับราคาน้ำมันดิบ มีขาดทุนใน สต็อก - IVL, PTTGC

    4. กลุ่มผู้รับเหมางานโครงสร้างเหล็ก - อุปสงค์โครงสร้างเหล็ก (Module) ที่ใช้กับฐานขุดเจาะก๊าซและน้ำมันจะต่ำลง เพราะโครงการลงทุนใหม่ๆ จะน้อยลง มาร์จิ้นของงานจะบางลง - BJCHI, STPI, SRICHA

    5. กลุ่มพลังงานทดแทน - จะได้รับความสนใจน้อยลง โดยเฉพาะพวกเอทานอล ไบโอดีเซล - BCP, LANNA, KSL, KBS, EE, TAE เป็นต้น

    หุ้นกลุ่มไหนที่ได้รับผลกระทบด้าน บวก : ราคาหุ้นอาจจะขึ้น

    1. กลุ่มวัสดุก่อสร้าง - ต้นทุนการผลิตและขนส่งลดลงตามราคาพลังงาน - DCC, SCC, SCCC, TASCO, 
    VNG 

    2. กลุ่มค้าปลีกและบันเทิง - ในภาวะปกติถ้าราคาน้ำมันลดลง ผู้บริโภคมักจะใช้เงินที่ประหยัดได้มาจับจ่ายใช้สอยในชีวิตประจำวันมากขึ้น แต่ถ้าภาวะเศรษฐกิจซบเซาก็จะเห็นผลดีจากส่วนนี้ไม่มาก - CPALL, BIGC, MAKRO,  HMPRO, GLOBAL, MAJOR, RS, WORK เป็นต้น

    3. กลุ่มขนส่ง - ราคาน้ำมันลดลงทำให้ต้นทุนการดำเนินธุรกิจต่ำลง (ต้นทุนน้ำมันคิดเป็น 40+/-% ของต้นทุนธุรกิจโดยรวม) - AAV, BA, NOK, THAI, RCL สำหรับ TTA, PSL - ได้รับผลดีจากน้ำมันลดไม่มาก เพราะลูกค้าจ่ายค่าน้ำมันเอง

    4. กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง – ราคาน้ำมันลดลงทำให้ต้นทุนดำเนินงานต่ำลง (ต้นทุนพลังงานและขนส่งอยู่ที่ 5-7% ของต้นทุนรวม) - CK, ITD, STEC, UNIQ, NWR, SYNTEC, SEAFCO, PYLON เป็นต้น
    wab side ที่เกี่ยวข้องกับสถิติของไทย

    5. กลุ่มยานยนต์ - โดยปกติถ้าราคาน้ำมันลด อุปสงค์ยานยนต์จะเพิ่มขึ้น แต่ในช่วงเศรษฐกิจไม่ดี และภาระหนี้ครัวเรือนสูงก็จะได้อานิสงค์ทางบวกไม่มาก - AH, SAT, STANLY, IRC

    GDP

    MPI

    PPI

    อัตราเงินเฟ้อ

    CPI

    Interest Rate

    อัตราการว่างงาน

    ส่งออกและนำเข้า

    รายงานภาวะเศรษฐกิจ

    สินค้าเกษตร

    ดัชนีภาคอุตสาหกรรม


    เครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชน

    การเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐ

    ตารางสถิติทั้งหมด ธนาคารแห่งประเทศไทย

    กระทรวงพาณิชย์

    ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ 

     ดัชนีราคาที่อยู่อาศัย











    ไม่มีความคิดเห็น:

    แสดงความคิดเห็น