- เข้าใจตัวเองให้มากที่สุด ว่าชอบอะไร สไตล์ไหน ทำอะไรได้ดี
- ตัดกิเลสออก จากจิดใจที่เกิดจากฝั่งลบจากกรรมที่พยายามจะควบคุมเรา ให้ใช้สติไตร่ตรองจนเกิดปัญญาแล้วเราจะรู้เท่าทัน กิเลสนั้นว่าดีหรือไม่ดี
- มองธรรมชาติของกราฟ โดยปราศจาก Ego จุดซื้อขายก็เกิดจากแรงซื้อแรงขายที่ปรากฎในกราฟ
- ถ้าเกมส์ไหนมองออกค่อยเข้าไปเล่น ถ้ามองไม่ออกก็รอดูเพราะนักเกร็งกำไรที่ดี จะไม่เข้าไปเล่นในเกมส์ที่ไม่รู้จักและ ไม่มีแต้มต่อ
Mindset กับตลาดหุ้น
- ตลาดมีนิสัยของตัวเอง ศึกษาและหามันให้เจอ
- ทิศถูกกำหนดไว้แล้ว ตลาดจะทิ้งร่องรอยไว้ให้กับคนที่แกะรอยเป็น และรอได้เท่านั้น
- หุ้นทุกตัวมี cycle ของมันจงติดตามเพื่อรอเวลาที่มันจะแสดงพลังออกมา
- รายย่อยต้องหาจังหวะเกาะตามตลาดไป ถ้าทุนยังไม่ใหญ่พอ
- ตลาดจะส่งสัญาณก่อนออกตัวเสมอ
- DW สิ่งที่ผลักดันราคา คือ flow ฉะนั้นจงเข้าใจการไหลของ flow ให้มาก
ขาลง
- เมื่อคนส่วนใหญ่รู้ทิศทางหลักของ set เจ้าจะไม่ทำขึ้นแบบง่ายๆ ต้องหลอกหล่อให้งงก่อนเอาขึ้น
- อาจเห็น sw ชุดใหญด้านล่างฐาน แล้วกดราคาลงทำให้น่ากลัว + volume ขาย พอถึงแนวรับสำคัญก็ซื้อกลับเขย่ารายย่อยให้ออกไปให้มากที่สุดก่อนเอาขึ้น
- จะเห็นการลงที่เร็วและขึ้นที่เร็ว ต้องรียตัดสินใจตามทันทีไม่งั้นไม่ทัน
- ถ้าลง A ครั้งแรกยาว C อาจจะสั้น แต่ถ้า A สั้น C อาจจะลงยาว 5 คลื่น หรือ 3 คลื่นได้
- นับขาลงให้จบก่อน อาจจะเป็น 3 คลื่น หรือ 5 คลื่น
- ให้หา low ให้เจอก่อนแล้วอาจเจอ double bottom ก่อนเริ่มนับคลื่น 1 และหาจังวหะเข้าที่คลื่น 2
- ให้หาจังหวะเข้าที่จะอยู่ที่ด้านล่สงที่ คลื่น 2 หรือ 1 ก็ได้จะได้จุดเข้าที่ดี
อธิบายการลง การเด้ง และการขึ้น |
ส่วนที่ 1
- เรามีนิสัยติดตัวมาตั้งแต่เกิด
- ต้องพยายามปรับจูน การเทรดให้ตรงกับจังหวะของตลาดให้ได้
- ติดตามและสรุปแนวทางการดทรดของตัวเองว่าได้กำไร หรือ ขาดทุนถ้ายังขาดทุนอยู่ก็แสดงว่าเรายังหาจุดที่ตรงกับตลาดไม่ได้
- ใช้พลังแฝงในตัวให้เต็มที่ แล้วผลจะออกมาดีเอง
- ติดตามและสรุปการเทรด เพื่อปปรับจูนให้ตรงกับตลาดทุกวัน
- หุ้นจะขึ้นได้แรงขายต้องน้อยกว่าแรงซื้อ
- จุดที่จะ shoot ต้องสร้างฐานที่ดีซะก่อน
- ต้องแท่ง shoot ที่ชนะแนวต้านสำคัญก่อนมันถึงจะบ่งบอกว่าแรงซื้อเริ่มกลับมาจริงจังแล้ว
- จงเลือกหุ้นที่ เวลาและจังหวะมาถึงพร้อมกันเสมอ
- ตอนเช้าจะเป็นการซื้อ เย็นจะเป็นการขาย
- ช่วง sw แรกไม่เข้าเพราะไม่ยังอ่านไม่ออกว่า กำลังทำ pattern อะไรรอให้อ่านออก
- เมื่ออ่าน sw ออกแล้วจับตาจังหวะเข้าให้ดี เมื่อถึงจังหวะเลือกทาง
- จังหวะเข้าต้องไม่อยู่ กรอบของ แรงซื้อ หรือ แรงขาย ต้องอยู่ในภาวะไร้แรงซื้อและแรงขาย
- เมื่อราคาหลุดแนวรับ หรือ แนวต้านสำคัญ ต้องดูว่ามีแรงฝั่งตรงข้ามเข้ามารับหรือเปล่า ถ้ามีเข้ามาก็แสดงว่า ยังอยู่ในกรอบเพราะมีการ control ราคาอยู่มีการดึงกลับเมื่อหลุดกรอบออกไป
- การหลุด อธิบายได้ดังนี้
ต้านมีอยู่เท่าไร เลยบ้างทีอาจใส่แรงเกินไปบ้างทำให้ราคาหลุดแนวเป้าหมายไป
เรื่อง Time frame
- T/F ที่มีน้ำหนักที่สุดคือ T/F Day แนวรับแนวต้านจะมีผลต่อราคาอย่างมาก
- T/F 60 นาทีเป็นภาพระยกลาง มีผลลองลงมา ใช้ดูเทรนประกอบกับ Day
- T/F เล็กลงไป เช่น 5 นาทีเอาไว้ดูรายละเอียดการเคลื่อนตัวของราคา จุดซื้อและขาย
จังหวะการเทรด
ต้องเข้าเงื่อนไข 4 ข้อก่อน
- ต้องจบขาลงที่ชัดเจนซะก่อน และสร้าง pattern ที่อ่านออกซะก่อนไม่ต้องรีบเพราะแรงขายยังไม่หมดไป หุ้นจะขึ้นได้ต้องเห็นการส้รางฐานที่ดี ถ้าแรงขายเริ่มหมดก็จะเห็นการสรา้ง pattern ของขาขึ้นต่อไป แล้วดูว่าแข้งแรงไหม
- เห็น sw เริ่มสร้างขาขึ้นใหม่ เริ่มเห็นขา 1 และย่อทำขา 2
- volume ขายต้องเริ่มน้อยลง volume ซื้อต้องเริ่มกลับมา
- ต้องมีแนวรับสำคัญรับอยู่ ถ้าหลุดก็ cut ทันที
ช่วง Reversal
- หาหุ้นพื้นฐานดี ลงมาที่แนวรับสำคัญ หรือหลุดแนวรับได้นิดหน่อย วันถัดไปเอามาเฝ้าไว้ เพราะถ้ามันยังจะเปลี่ยนเทรนจริงๆ มันจะมี volume เข้ามาดันราคาไว้และอาจจะได้จุดเปลี่ยนเทรนเลย
- หาจุดกลับตัวให้เจอด้วย Fibo
- นับคลื่น Elliott wave
- หาแนวรับที่มมี demand จำนวนมาก
ช่วง swing trade
- จะเกิดในช่วง sw คลื่น 1 ไปคลื่น 2 หรือช่วง ปรับฐาน
- ขึ้นไปถึงแนวต้านแล้วมีแท่งขายยาว + volume เป็นจุดส่งสัญญาณขายแรก
- เมื่อราคาลงมาที่แนวรับก็ พิจารณาจุดซื้อใหม่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น