ศึกษาขาลงของ CBG

จุดสังเกตุการลงของหุ้น CBG

• แรงซื้อและแรงขายเป็นอย่างไร
• จุดเปลี่ยนเทรนอยู่ตรงไหน
• ดู sw อย่างไร
• volume ซื้อขายดูอย่างไร

CBG ขาลง

TFEX 27-02-18

จุดสังเกตุพฤติกรรมการเปลี่ยนเทรน จาก sw เป็นเทรนขาขึ้น

1. ใน sw เห็นชุดเชื่่อมลงจากแรงขายเป็นหยุดลง และออก sw ใหม่ 
2. เห็นราคาขึ้นไปยืนที่แนวต้านได้ volume ขายลดลง
3. แรงขายที่แนวต้านลดลงและเริ่มีแรงซื้อเข้ามาแทนเป็นพฟติกรรมของขาขึ้น
4. การขึ้นให้นับ wave 5 คลื่นในคลื่นย่อยไปเรื่อยๆ ว่าจะจบที่คลื่นไหน หรือออาจะมีคลื่นยืดก็ได้ ให้สังเกตุ volume ของแรงซื้อและแรงขายและ pattern ที่ก่อตัวขึ้น
5. พฤติกรรมตามแนวต้าน ถ้าจะขึ้นต่อเราจะเห็นพฤติกรรมของการขึ้นไม่ใช่ลง
6. ใช้ MACD ช่วย confirm สัญญาณจากกราฟอีกที่จะทำให้แม่นยำมากขึ้น

Tfex 26-02-18

จุดสังเกตุพฤติกรรมราคาที่บ่งบอกว่าจะขึ้นต่อไม่ลง

Tfex 27-02-18

ทำความเข้าใจการเทรดของผู้ชนะ IQ

ก่อนที่จะเทรดเราต้องรู้ว่าเกมส์ที่จะเล่นว่ามีองค์ประกอบอะไรบ้างที่สามารถจะชนะเกมส์นี้ได้

1. ต้องรู้ภาพรวมของเกมส์ที่จะเล่นซะก่อนว่า เกมส์นี้เล่นอย่างไง ได้อย่างไง เสียอย่างไง
2. ดูช่วงการเคลื่อนตัวของกราฟ ว่าช่วงไหนที่มี momentum ไปในทิศทางเดียวอยู่ได้นานเกินเวลาที่เราเลือกก็ให้เลือกช่วงเวลานั้นในการเทรด

          - ช่วงกราฟที่เป็น trend

          - ช่วงกราฟที่เป็น swing trade

          - ช่วงกราฟกลับตัว reversal pattent

      3. มองดูกราฟก่อนว่าจะใช้การเทรดแบบไหนที่เหมาะสมกับกราฟ แล้วค่อยหาจุดเข้าที่ดีต่อไป
      4. ต้องเห็นสัญญาณ การเปลี่ยนเทรนที่จุดเปลี่ยนเทรนเสมอเพื่อให้มี momentum ที่ดีที่สุด

          ในการเทรด
      5. เลือกช่วงการเทรด ที่เกิดเป็นรูปแบบซ้ำๆกันที่เรารู้จักเป็นอย่างดีในการดเทรด 

      6. เทรดเฉพาะช่วงที่เป็นจังหวะเทรดของเราเท่านั้น

      7. ฝึกฝนการเทรดอย่างสม่ำเสมอเพื่อสร้างทักษะ และประสบการณ์

      8. สรุปผลการเทรดอยู่เสมอเพื่อพัฒนาและปรับระบบการเทรดให้ดียิ่งขึ้น

รูปแบบการเทรด ตามเทรนใหญ่

TFEX 23-02-18

จุดสังเกตุ sw จากกราฟ

• โซนปฎิเสธการขึ้นและมีแรงขายออกมาพร้อม volume
• โซนหยุดลง
• โซนเปลี่ยนจากลงเป็นขึ้น
• โซนเปลี่ยนเป็นขาขึ้นรอบใหม่

TFEX จุดเปลี่ยนเทรน

จุดเข้าที่ดีและหลักการซื้อขาย พรานล่าหุ้น

จุดซื้อที่ดี ในมุมของพรานล่าหุ้น

1. จงเชื่อว่าราคาได้สะท้อนทุกอย่างออกมาจากกราฟแล้วฉะนั้น จงมองหาสัญญาณจากกราฟให้เจอ
2. เห็นต้นทุนของรายใหญ่ จากช่วงสะสมหรือ ยิงดาวเอาหุ้นหรือสัญญาณที่เราอ่านได้ว่ามีการสะสมหุ้นของรายใหญ่ที่ฐานราคา
3. เห็นสัญญาณของขาขึ้น ที่จุดเปลี่ยนเทรน
4. มี volume เข้าแล้วยก high ยก low แล้วการย่อตัวเป็นแบบย่อเพื่อขึ้นต่อ หรือ เป็นคลื่น 1 ย่อคลื่น 2 ในมุมของ Elliott wave 
5. ดูรอบของหุ้นให้ออกว่าจุดไหน คือจุดที่เปลี่ยนเป็นขาขึ้น หรือ เปลี่ยนเป็นขาลงหลังจากนั้นก็หาจังเข้าตามไป

หลักการซื้อและขาย

1. ดู flow จาก 2 กลุ่มหลักว่าตอนนี้ใครซื้อเป็นหลักและเข้าหุ้นกลุ่มไหน คือ  

           - สถาบันในประเทศ (กองทุน)
           - สถาบันต่างประเทศ (ฝรั่ง)
   
      2. กำหนดสถาณการณ์ว่าจะเล่นสั้นหรือเล่นยาว ตามสถานของ flow ที่เข้า หรือ wave ที่นับได้
      3. หุ้นมันมีจังหวะในการขึ้นหรือลงของมัน เฝ้าและหาให้เจอแล้วเข้าตามให้ทัน
      4. เกร็งกำไรจุดที่ได้เด่น คือ การซื้อได้หลายตัว เข้าเร็วออกเร็วทบต้นไปเรื่อยๆจะได้กำไรมาก
          กว่าซื้อแล้วถือ
      5. Momentum ฝั่งไหนมามันก็มีแรงกระทำให้อยู่ฝั่งนั้นไปเรื่อยจนกว่าจะมีแรงที่มากกว่าเข้ามา
          กระทำในทิศตรงข้าม หรือ มีการเปลี่ยนทิศทางถี่ขึ้นเรื่อยๆเป็นสัญญาณของการเปลี่ยนเทรน
          อย่างหนึ่ง

IQ Option 2

หลักการเล่น update

• ดูเทรนหลักซึ่งเป็นเทรนใหญ่ของกราฟว่าไปทางไหน
• ดู secondary เทรนว่ามีจังหวะเข้าไหม แค่ 1 ไม้เท่านั้น
• ถ้าจังหวะว่ากราฟมีลักษณะการเทรดแบบใดเล่น 3 แบบนี้เท่านั้น 

          - Follow trend
          - Swing trade
          - Revarsal

• เทรนย่อยดูแรงตามแนวต้นหรือแนวรับ ว่าเริ่มหมดแรงรึยังและเมื่อวิ่งกลับมาในทิศทางหลักแล้วยังมีแรงอยู่ไหม และยังวิง่อยู่ในทิศทางหลักอยู่ไหม
• เล่นตามเทรนหลักเป็นหลักเพราะมันจะมี momentum ในทิศทางเดิมเข้าสถานะได้หลายไม้ สามารถเข้าได้มากกว่าเทรนย่อย เทรนย่อยดูที่มีแรงเหวี่ยงสูงๆ เล่นที่ละ 1ไม้เท่านั้น
• เล่นย่อ long เด้ง short จะปลอดภัยกว่า
• ถึงแนวรับแนวต้านสำคัญไม่เล่นรอดูก่อน ให้เทรนชัดๆก่อนเข้าอีกครั้ง
• ช่วงที่แท่งเทียน swing จากแรงซื้อขายมากๆ ไม่เล่นไม่ปลอดภัย
• ช่วงกลับตัวรอดูอาการกราฟให้เริ่มกลับตัวให้ได้แล้วค่อยหาจังหวะเข้าตาม
• ดูจุดเปลี่ยนเทรนเพื่อรอจุดเข้าตาม

จุดที่มี momuntum ที่ดีของขาลง

หลักสำคัญของ IQ 

     คือ ต้องรอให้มี momuntum อยู่ในทิศทางนั้นก่อนแล้วค่อยเข้า ไม่งั้นมันจะขึ้นลงสลับกันทำให้เข้าสถานะแล้วผิดทางบ่อย

• ต้องรอจังหวะให้เป็น
• มีจุดทำกำไรจาก pattren ที่หมั่นใจและเป็น pattren หากินของตัวเองก่อน
• เก็บแต้มไปเรื่อยๆ อย่าใจร้อนรอจังหวะให้เป็น
• อ่านเกมส์ของทิศทางให้ออก ถ้าไม่ออกก็รอให้เฉลยซะก่อนแล้วค่อยเก็บเป็นกลยุทธ์ใหม่ต่อไป
• ช่วงที่มีความเสี่ยง ไม่หมั่นใจอย่าเล่น

TFEX 12-02-18

จุดสังเกตุของการเปลี่ยนเทรนจากลงเป็นขึ้น

• มีแรงขายออกมาทำ ABC ครบแล้วในมุมของ Elloitt wave
• มี volume ซื้อซื้อกลับทันที่ที่หลุดแนวรับสำคัญของฝั่งซื้อ แสดงว่าฝั่งซื้อยังไม่ยอมให้ลง
• ราคาวิ่งขึ้นด้วย volume ของฝั่งซื้อที่เริ่มมากกว่าฝั่งขาย
• ที่แนวรับสำคัญของฝั่งซื้อ volume ขายน้อยลงและมีแรงซื้อกลับตลอด
• ราคาไม่หลุด trend line ของฝั่งซื้อที่ตีไว้ ที่แนวรับสำคัญของ trend line มีแรงซื้อกลับตลอด
• การขึ้นสามารถขึ้นได้เป็นคลื่น 5 ลูกแสดงว่า momentum ฝั่งขึ้นเริ่มต้นขึ้นแล้วแรงขายไม่สามารถทำลายคลื่นไหนลงได้เวลาย่อ ก็ไม่หลุดแนวรับสำคัญและแรงขายน้อยกว่าแรงซื้อ
• MACD วิ่งขึ้นทะลุ 0 และย่อตัวน้อยลงและวิ่งขึ้นทำคลื่นลูกที่ 2 ของฝั่งขึ้นได้บ่งบอกว่า momuntum ฝั่งขึ้นเริ่มต้นแล้ว

TFEX 12-02-18

 

Tfex 9-02-18

จุดสังเกตุ หลังการปรับฐานจะจบรึยัง

• การลงเริ่มสั้นลง volume ขายเริ่มลดลง
• นับ Elliott wave ครบ ABCแล้ว
• มีแรงซื้อกลับ พร้อม volume เสมอที่จุด low แสดงว่ามีคนยังไม่ยอมให้ set ลงอยู่เยอะ
• เกิด Bullish Divergence ใน MACD
• เทรนหลักยังเป็นขาขึ้นยังไม่หลุดจุดเปลี่ยนเทรนของฝั่งซื้อ

ลักษณะของกราฟที่ยังเป็นขาลงอยู่

• ที่จุด B เป็นลักษณะของกราฟที่ยังเป็นขาลงอยู่ เพราะที่จุดยอดยังมีแรงกดราคาอยู่ และแรงซื้อไม่สามารถดันราคาให้ทะลุแนวต้านนี้ได้ จุดนี้ในมุม Elliott wave จะเรียกว่าจุดที่1 แล้วเด้ง 2 เป็นจุดเริ่มต้นของขาลงที่มี 5 คลื่นในชุด C 
• หลังจากนั้นก็มีแรงขายออกมาเป็นชุดที่ 2 แสดงว่าแรงซื้ออแพ้แล้วเพราะ volume ซื้อลดลงราคาไหลลงเป็น wave 3 ในชุดของ C ใหญ่
• ขา 4 ออก sw volume ลดลงแล้วราคาโดนกดให้ลงมาเล่นที่แนวรับหลายรอบ
• ขา 5 เปิด Gap ลงมาที่แนวรับ 1,138 หลุดแล้วกลับขึ้นมายืนได้พร้อม volume ซื้อบ่งบอกว่าจบขาลงแล้วเพราะมีแรงซื้อกลับมาซื้อไม่ให้ลงต่อ  

TFEX 9-02-18

Tecnical ใช้ได้แค่ประมาณ 40%เท่านั้น

เพราะการขึ้นลงของหุ้นต้องมีคนมาทำราคาขึ้นไป และการลงก็ต้องมีคนขายหุ้นจำนวนมากหุ้นถึงจะลงได้ มันคือเกมส์ของรายใหญ่ที่สามารถควบคุมทิศทางการเคลื่อนที่ของราคาได้ในระยเวลาหนึ่ง หรือ money game มันจึงทำให้คนที่ไม่รู้กฎกติกาการเล่นเสียเงินให้รายใหญ่คนที่คุมเกมส์นี้

ข้อดีของ Technical

ปกติที่ดูกัน

1.  เอาไว้จับสัญญาณของทิศทางราคาว่าจะไปทางไหน 
2. ดูแรงซื้อแรงขายเป็นอย่างไร ฝั่งไหนได้เปรียบ
3. ดูจุดกลับตัว และจุดสูงสุดของกราฟ
4. จับจังหวะการเข้าออกตามกราฟที่เกิดขึ้น

มิติของการทำราคา ซื้อ หรือ ขาย

1. ดูจิตวิทยาตลาด ว่ารายใหญ่กำลังทำอะไร กำลังหลอกล่อรายย่อย หรือ กำลังขายทำกำไร
2. จับสัญาณของรายใหญ่ ใครสักคนที่กำลังควบคุมราคาเอาไว้และกำลังเริ่มต้นเล่นเกมส์

ข้อเสีย คือ

1. ทุกคนที่ดูกราฟเป็นก็จะเห็นข้อมูลชุดเดียวกันไม่ว่าจะเป็น รายใหญ่ รายย่อย
2. จากภาพที่เราเห็นเพียงไม่กี่ด้านของตลาด แล้วเอามาตัดสินใจซื้อขายยังไม่เพียงพอต่อการอยู่ในตลาดระยะยาวได้
3. ภาพที่เราไม่เห็นจาก Technical คือภาพของรายใหญ่กำลังคิดอะไร และเขาต้องการอะไรจากภาพที่เขากำลังสร้างขึ้น
4. ภาพที่ถูกสร้างขึ้นมันเต็มไปด้วย หลายมิติ เราไม่สามารเห็นได้หมดทุกมิติจึงต้องใช้การวิเคราะห์ทางด้าน จิตวิทยา มาประกอบการตัดสินใจด้วย
5. ถ้าเราเชื่อภาพที่ห็นแล้วเอามาตีความด้านเดียว ก็อาจจะทำให้เป็นการสินใจที่ถูกตามภาพที่เห็น แต่มันจะผิดก็ต่อเมื่อ เจตนาแฝงที่แท้จริงนั้นปรากฎออกมาแล้วมันสวนทางกับภาพที่ทุกคนรับรู้

ในระยะยาวเราจำเป็นต้องเรียนรู้จากกราฟและแยกแยะข้อมูลให้ออก ว่าข้อมูลไหนเป็นของรายใหญ่ และข้อมูลไหนเป็นของรายย่อย ด้วยการใช้ประสบการณ์และความรู้ที่ถูกเผยแพร่ที่ถูกต้องในที่สาธารณะแล้วใช้ควบคู่ในการตีความจากกราฟอีกชั้นหนึ่งมันถึงจะใกล้เคียงกับมิติที่ถูกซ่อนอยู่

วิธีที่ควรจะทำเพิ่มเติมเมื่อดูกราฟ

• ดูทิศทางหลักของกราฟก่อนว่าเป็นเทรนอะไร
• หาสัญญาณของรายใหญที่ทิ้งไว้ในกราฟ หรือ รอสัญญาณที่ชัดเจนจากกราฟที่เราคุ้นเคย
• พยายามตีความจากการเคลื่อนตัวของราคา และ volume บวกกันเพื่อแยกแยะ สัญญาณของรายใหญ่และรายย่อย 
• ถึงจุดจุดหนึ่ง ความจริงจากกราฟจะปรากฎออกมาเราต้องรอสัญญาณนั้น และตีความให้ถูกว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นแล้วเข้าสถานะตามที่สัญญาณนั้นส่งออดมา
• ฝึกดูกราฟบ่อยๆ เพื่อแยกแยะสัญญาณการเปลี่ยนเทรนจากการกระทำของรายใหญ่ หรือจุดเปลี่ยนทิศทางกจากกราฟ

สรุปปิดท้าย

กราฟเป็นภาพที่มีหลายมิติทับซ้อนกันอยู่ คนที่มีเงินมากพอที่จะควบคุมราคาได้ ก็จะเริ่มส้รางภาพให้ทุกคนเห็นแล้วชักจูงให้คนส่วนใหญ่เชื่่อไปตามภาพที่ตัวเองสร้างขึ้นมา แต่ถ้าใครที่แกะรอยภาพนี้ออกก็จะเห็นสัญญาณบ้างที่ถูกทิ้งไว้ แล้วก็จะไม่เป็นเหยื่อของรายใหญ่ ฉะนั้นต้องแยกข้อมูลของรายใหญ่ และราย่อยออกจากกันให้ได้และก็ตามรายใหญ่คนที่สร้างภาพนั้นไป

ศึกษาหุ้น KTC

ข้อสังเกตุของการขึ้นมารอบนี้

1. งบดีมีกำไรต่อเนื่อง
2. มี flow ไหลเข้ามาซื้ออย่างต่อเนื่อง 
3. NVDR net เป็นซื้อ
4. Momemtum ฝั่งซื้อยังอยู่
5. ย่อแล้วไม่หลุดแนวรับสำคัญของฝั่งซื้อ และมีแรงซื้อกลับทุกครั้งที่ย่อตัว
6. นับคลื่น Elliott wave ยังไม่ครบ 5 คลื่น

KTC

หลุดจุด stop loss เกิด panic รายย่อยทำไงดี

จุดสังเกตุของการหลุดจุด stop loss แล้วเกิดแรงขาย พร้อม volume ในหุ้นพื้นฐานดีเป็นจังหวะในการเข้าสถานะของรายย่อยที่เห็นโอกาส

จุดสังเกตุถ้ายังไม่มีหุ้น

• ต้องเป็นหุ้นพื้นฐานงบดี มีกำไรเพื่อแยกการลงออกจากการลงจริงของหุ้นที่ไม่มีพื้นฐานรองรับ
• set ถูกแรงขายโดยรวมหุ้นทุกตัวถูกขายออกไม่ใช่ เฉพาะเจาะจงมา CK ตัวเดียว
• แนวรับสำคัญของฝั่งซื้ออยู่ที่ 25.5 บาทเมื่อมีแรงขายลงมาที่แนวรับนี้ถ้าจะยังเป็นขึ้นอยู่ก็ควรมีแรงซื้อกลับมารับที่แนวรับนี้
• แต่มีแรงออกจาก set หุ้นทุกตัวลงหมดและ CK ก็เทขายเช่นกันราคาหลุดแนวรับสำคัญของฝั่งซื้อ ถ้าเราเห็นและเข้าใจหุ้นนี้ ว่าพื้นฐานดีก็ควรรออีกวันว่าราคาสามารถเด้งขึ้นมาเหนือแนวรับนี้ได้ไหม ถ้าได้ก็แสดงว่ามันยังคงมี momuntum ของฝั่งขึ้นอยู่เพราะ ว่าไม่งั้นควรหลุดลงไปแล้วไม่สามารถเด้งกลับมาได้เร็ว เมื่อหลุดแนวรับสำคัญลงไป 
• แนวที่หลุด สัญนิษฐานว่าน่าจะหลุดแนวรับสำคัญของ robot ที่ถูกตั้งราคาไว้เมื่อราคาหลุดแนวรับนี้คนที่เทรดแบบ Technical ก็จะเทขายออกมากันหมดเลยมี volume ขายออกมาจำนวนมาก แต่ถ้าวันถัดไปขึ้นมายืนได้ก็แสดงว่าลงไม่จริง อาจจะลงเพราะตกใจจากแรงขายเท่านั้น
• ถ้า 1-2 วันขึ้นมายืนเหนือแนวรับสำคัญได้ ก็เฝ้าเพื่อหาจังหวะเข้าตามไป  

จุดสังเกตุถ้ามีหุ้นแล้ว

• ณ.แนวรับสำคัญเฝ้าระวัง ถ้าลงมาชนแนวรับแล้วทำท่าจะหลุดก็ขายออกก่อน
• เพราะว่าถ้าลงมาที่แนวรับสำคัญได้ แสดงว่ามันมีแรงขายชนะฝั่งซื้อมาแล้วระดับหนึ่ง ไม่งั้นก็คงลงมาที่จุดสำคัญไม่ได้ แล้วแรงขายยังคงอยู่ถ้าแรงซื้อไม่มีแรงพอที่ดันราคากลับขึ้นมาจากแนวรับสำคัญได้ แรงขายก็จะกดหลุดแล้วโดน stop loss ของ technical ทั้งหมดจะมีแรงเทขายออกมา เกิดเป็นแท่งแดงยาว พร้อม volume ของฝั่งขาย
• ควรขายออกก่อนจุดนี้ถ้าเห็นว่าแรงขายมากกว่าแรงซื้อ แล้วแรงซื้อไม่มีแรงพอที่จะดันราคาขึ้นไปยืนเหนือแนวรับสำคัญของฝั่งซื้อได้ เพราะแรงขายกดราคาลงมาได้ก็แสดงว่ายังมีแรงขายอยู่ 

ถ้ายังไม่มีหุ้นให้จับตาแรงซื้อกลับเมื่อหลุดแนวรับสำคัญของฝั่งซื้อ

หลุดจุด Stop loss ยังไม่มีหุ้น CK  ให้ซื้อ

ถ้ามีหุ้นแล้วจับตาจุดเปลี่ยนเทรนและหาจุดออกเมื่อเทรนเริ่มเปลี่ยน

หุ้น WORK
มีหุ้นแล้ว ราคาลงมาที่แนวรับสำคัญแรงขายมากกว่าแรงซื้อให้ออกก่อน

CBG
จุดสังเกตุการเปลี่ยนเทรน ณ.จุดเปลี่ยนเทรน

Mindset ของรายย่อยเพื่อความอยู่รอด

ในตลาดหุ้นมีกลุ่มนักลงทุนหลายกลุ่มทำให้ทิศทางการเคลื่อนไหวของราคานั้นคาดการณ์ได้ยาก เพราะมันคือ money game เกมส์ของปลาใหญ่กินปลาเล็ก รายใหญ่ที่มีเงินจำนวนเยอะๆสามารถควบคุมทิศทางของราคาหุ้นได้ก็จะเป็นคนที่ควบคุมราคา และหลอกล่อให้รายย่อยเข้าตามเพื่อหาผลประโยชน์จากราย่่อยที่ไม่ทันระวังตัว แบ่งกลุ่มนักลงทุนได้ตามนี้

กลุ่มนักลงทุนและเกร้งกำไร

ลักษณะการลงทุนของผู้เล่น

แนวคิดของรายย่อยเพื่อความอยู่รอดควรคิดในมุมกลับ

• คิดในมุมมองของรายใหญ่ที่สามารถควบคุมเกมส์นี้
• ศึกษาพฤติกรรมของกราฟว่ารายใหญ่กำลังทำอะไรอยู่ แยกออกได้ดังนี้

         ขาลง
          - กำลังทุบหุ้นเพื่อเก็บของ

          - กำลังเก็บของแต่ไม่ได้ทุบหุ้น

          - ราคาออก sw  swing ขึ้น swing ลง เพื่อเก็บของ

          - เมื่อเก็บหุ้นได้ตามต้องการแล้วก็เริ่มทำราคาขึ้น ให้หาสัญญาณการเล่นขึ้นให้เจอแล้ว

            ตามไป

         ขาขึ้น

          - เมื่อราคาขึ้นมาเยอะแล้วถึงจุดเป้าหมายก็จะทำการทุบราคาลงไปเพื่อทำกำไรและไล่ 

            รายย่อยออกเพื่อเก็บหุ้นใหม่

          - ลงมาแล้วเด้ง ดูให้ออกว่าเด้งเพื่อลงหรือกลับตัว

          - หาสัญญาณของรายใหญ่ที่บ่งบอกว่า จบขาลงแล้ว

• เลือกเล่นเกมส์ที่เหมาะกับตัวเอง กลาง ยาว สั้น
• รู้ว่าเกมส์นี้มีใครบ้างที่เล่นอยู่
• หาสัญญาณของรายใหญที่ควบคุมราคา ว่าสัญญาณนั้นบ่งบอกอะไร
• หาสัญญาณที่บ่งบอกว่า เขาเริ่มออกตัวและเริ่มทำราคาแล้วเพื่อที่จะเข้าตามไป

TFEX 06-02-18 จุดสังเกตุการกลับตัว 2

ปกติการลงของหุ้นจะลงแบบ ABC ซึ้งตอนนี้ถ้านับก็น่าจะลงมาทำ A แล้วเด้ง B รอดูขาลงของ C จะลงแบบไหน แบ่งออกเป็น 4 ทางได้ดังนี้

1. ทำ C ลงมาที่แนวรับ 2 หรือลงมาไม่ถึง แล้ว volume ขายลดลงแรงซื้อกลับมากลับขึ้นใหม่
2. ลง C แล้วเด้งที่ แนวรับ 2 แล้วมีแรงขายออกมาพร้อม volume หลุดแนวรับ 2 ลงไปที่แนวรับ 1 แล้วมี voume ขายออกมากดราคาหลุดแนงรับ 1 เป็นขาลงต่อไป
3. ลงมาทำ C ที่แนวรับ 2 แล้วมีแรงขายออกมาราคาหลุดแนวรับลงมาที่แนวรับ 1 แล้ว volume ลดลง volume ซื้อกลับมาออก sw แล้วกลับตัวเป็นขาขึ้นต่อไป
4. มีแรงขายออกมา และ volume ฝั้งซื้อน้อยกราฟออก sw ไปเรื่อยยังไม่ขึ้น

 
จุดสังเกตุ ณ. จุดกลับตัว

• ราคาโดนขายก่อนเปิดตลาดแสดงว่าไม่อยากให้ใครรู้เพราะอาจจะมีแรงซื้อสวนออกมาเพราะ set ยังเป็นเทรนขึ้นอยู่ อาจจะขายปรับพอร์ตเฉยๆหรือขายทำกำไร
• ราคาเปิด Gap ลงมาที่แนวรับ 1145 แล้วมีแรงขายตามออกมาอีก 1 ครั้งแต่ volume ขายลดลงแล้วลงมาที่แนวรับสำคัญของฝั่งซื้อ 1140 ถ้าหลุดแล้วยืนไม่อยู่ก็อาจจะมีแรงขายจาก robot trade เข้ามาเสริมด้วย
• ถ้ายืนที่แนวรับสำคัญของฝั่งซื้อได้ แรงขายลดลง แล้วมีแรงซื้อกลับด้วยแท่งเขียว + volume ของฝั่งซื้อก็บ่งบอกว่ามีแรงซื้อกลับและเริ่มมากกว่าแรงขายดันราคาขึ้นไปเรื่อยๆ แล้วแรงขายก็ลดลงตามด้วย แสดงว่าแรงขายหยุดขายแล้ว แรงซื้อก็ซื้อกลับกลับเป็นขาขึ้นชั่วคราวก็ดูตามแนวต้านสำคัญว่าแรงขายเป็นอย่างไร แรงซื้อยังซื้ออยู่ไหม ระยะสั้นยังเป็นเทรนขาขึ้นอยู่ไหม  

TFEX 6-02-18 ขาลง

อธิบายเพิ่มณ.จุดกลับตัว

TFEX 6-02-18 จุดกลับตัว

จุดสังเกตุ

• จุดกลับตัว
• แรงซื้อที่จุด high
• แรงขายที่จุด high
• แกะรอย sw ของจุด high ว่าจะไปต่อหรือจบรอบแล้ว
• ลักษณะของกราฟที่เริ่มหมดแรง
• จุดเปลี่ยนเทรนสำคัญของฝั่งขาย

TFEX 15 นาที + 60 นาที

TFEX 60 นาที

ดูหุ้นเป็นกลุ่ม จะเห็นภาพชัดกว่าดูรายตัว

ถ้าเราต้องการรู้ความเคลื่นไหวของ flow และหุ้นว่าเป็นอย่างไรสามารถดูได้จาก กลุ่มของหุ้นโดยดูจาก most active ว่าหุ้นตัวไหนติดเยอะมาก และกลุ่มไหนติดเยอะสุด แสดงว่า flow กำลังเข้ากลุ่มนั้นอยู่ อาจจะมาจาก ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ดีของกลุ่มนั้นก็ได้ แต่ถ้าเป็นเป็นอย่างนี้ส่วนใหญ่จะพวกหุ้นกลุ่ม community ซะมากว่าหรือ พวกที่ได้รับประโยชน์จากเศรฐกิจที่ดีขึ้นของตัวเองและต่างประเทศ

วิธีการเลือกหุ้นจากกลุ่ม

• ดู most active ว่าหุ้นกลุ่มไหนติดเยอะสุด
• เข้าไปรายตัวว่ากราฟเป็นอย่างไงบ้าง
• ดูข่าวว่าช่วงนี้มีข่าวอะไรที่เป็นประโยขน์กับกลุ่มไหนบ้าง
• หาปัจจัยที่มีผลต่อกำไรของกลุ่ม อาจจะเป็นช่วงเวลาสั้น หรือ ยาวก็ได้
• NVDR สุทธิเป็นซื้อ 
• คัดตัวที่กำไรน่าจะดีสุดในกลุ่มและกราฟมีจุดเข้าตามระบบเทรด
• เมื่อได้หุ้นมาแล้วก็เอามาเฝ้าระหว่างวันเพื่อหาจังหวะซื้อต่อไป

 เมื่อดูจาก most active เห็น flow เข้ากลุ่มโรงพยาบาลแล้วแบ่งกลุ่มออกได้ดังนี้

1. กลุ่มที่เป็นขาขึ้น มี flow เข้า หาจังหวะเข้าตาม

BDMS

BCH

      2.กลุ่มที่มี flow เข้าแล้วเริ่มเป็นขาขึ้น หาจังหวะเข้าตาม

BH

    3. กลุ่มที่ flow เริ่มเข้าทำฐานอยู่ เฝ้าหาจังหวะเข้าเมื่อราคาออกจากฐาน

CHG

VIBHA

CMR

TFEX 05-02-18

จุดสังเกตุการขึ้นที่หมดแรงและจุดสังเกตุที่จุดเปลี่ยนเทรน

•  ตีกรอบเส้น trend line
• Divergence ของ MACD
• ช่วงแรกเป็นแรงซื้อ ช่วงหลังเป็นแรงขายแล้วยืนไม่อยู่ที่จุดเปลี่ยนเทรน
• ขึ้นครบ 5 คลื่นแล้วในมุม Elliott wave
• Volume ซื้อเริ่มลดลง ช่วงดันราคาขึ้นแต่ติดแนวต้าน หลังจากนั้น volume ขายเริ่มมากขึ้น

TFEX 15 นาที และ 60 นาที

TFEX 60 นาทีภาพใหญ่

ศึกษาหุ้น SC

ใช้กราฟ week ช่วยดูในช่วง sw ใหญ่จะเห็น 4 ช่วงหลักของธรรมชาติของ sw แล้วจะเห็นจุดเปลี่ยนเทรนหลังจากแรงขายที่ลดลงในช่วงท้ายของ sw และก็เริ่มมีแรงซื้อเข้ามากลับเป็นขาขึ้นรอบใหม่

ธรรมชาติของ sw จะเห็นแรงซื้อและแรงขายเป็นภูเขาขึ้นและลง ช่วงท้ายจะเห็นแรงขายเร่ิ่มหมดแรง low ยกขึ้นเป็นสัญญาณบ่งบอกของจุดเริ่มต้นของขาขึ้น

ภูเขาลูกที่ 1

• ราคาลงมาที่แนวรับสำคัญของฝั่งซื้อแล้วมีแรงซื้อกลับแต่มีแรงขายกดราคาไม่ให้ผ่านแนวต้านสำคัญไปได้ที่แนวต้านสำคัญแรงซื้อเริ่มหมดแรง แรงขายเริ่มขายออกมามากว่าราคาลงมาที่แนวรับของจุดเปลี่ยนเทรน

ภูเขาลูกที่ 2

• ที่จุดเปลี่ยนเทรนอาจจะเห็น low ที่ยกขึ้นและ volume ขายลดลงราคาออก sw แล้วมีแรงซื้อกลับอันมันจะสัญญาณของตีนเขา เมื่อแรงซื้อดันราคาขึ้นไปเป็นรอบที่ 2 ที่แนวต้านสำคัญก็จะเห็นแรงขายออกมาให้สังเกตุ ว่าแรงขายที่ขายออกมามากหรือน้อย low สามารถยกขึ้นได้หรือไม่

สังเกตุจุดเปลี่ยน

• volume ขายจะน้อยลง low จะเริ่มยกขึ้น หลังจากนั้นจะมีแรงซื้อดันราคาขึ้นไปยืนที่จุดเปลี่ยนด้านบนได้ แล้วแรงขายจะลดลงทันทีเป็นจุดพักตัวเล็กๆ แล้วแรงซื้อก็ดันราคากลับขึ้นไปอีกครั้งเป็นขาขึ้นรอบใหม่ต่อไป

SC DAY

SC WEEK

หาเหตุผลของการลงก่อน มองขึ้น

ก่อนจะเข้าสถานะควรมองภาพรวมก่อนว่า ภาพของการลงมีมากกว่าขึ้นหรือไม่ถ้ามองแล้วหาเหตุของการลงได้น้อยกว่าขึ้นก็ค่อยเริ่มเฝ้าแล้วหาจุดซื้อที่ได้เปรียบตามระบบต่อไป

จุดที่ควรสังเกตุ

• ภาพโดยรวมของกราฟนั้นลงสุดรึยัง
• ภาพของการลงเป็นแบบ Elliott wave คือมี ABC  ครบรึยังและ volume ซื้อขายเป็นอย่างไร
• ที่แนวรับสำคัญที่จะเป็น bottom จะเห็นว่าราคาลงมาชนหลายครั้งแล้วไม่หลุด volume ขายเริ่มลดลง เหมือนว่าเริ่มจะหมดแรงขายแล้ว
• ใช้กราฟ week ดูแนวรับสำคัญในภาพใหญ่
• จะเริ่มเห็น volume ซื้อเริ่มเข้ามาเป็นช่วงๆ และ volume ขายเริ่มลดลง ราคาไม่หลุดแนวรับสำคัญหรือถ้าหลุด ก็จะเด้งกลับมาได้อย่างรวดเร็ว

ธรรมชาติของ sw ที่จะกลับตัวแบ่งออกเป็น 4 ช่วง จะใช้ได้ดีกับหุ้นที่ขึ้นมาแล้วพักตัวจะได้ผลมาก

ช่วงที่ 1
ที่เป็นเทรนขาลง แล้วราคาลงมาที่แนวรับสำคัญของฝั่งซื้อในระดับ week จะเห็นแรงซื้อซื้อกลับ

ดันราคาขึ้นไปติดแนวต้านของฝั่งขาย อาจจะเห็นแรงซื้อขึ้น 1-2 ครั้ง

ช่วงที่ 2
แรงขายไม่ยอมให้ขึ้น กดราคาลงมาที่แนวรับสำคัญแนวหนึ่งแต่ยังอยู่ในโซนของจุดเปลี่ยนเทรน

ช่วงที่3
ราคาลงมาที่แนวรับสำคัญของจุดเปลี่ยนเทรน และออก sw volume ลดลง แท่งเทียนสั้นลง

ช่วงที่4
มีแรงซื้อกลับเข้ามาอีกรอบและดันราคาขึ้นไปยืนที่จุดเปลี่ยน แล้วก็มีแรงซื้อเข้ามาติดต่อกันจนเป็นจุดเริ่มต้นของเทรนขาขึ้นรอบใหม่ บริเวณนี้ถ้าจะะขึ้นต่อแรงขายจะลดลงทันที

ตัวอย่างของกราฟที่มองเป็นขาลงแล้วหาเหตุผลของการลงต่อไม่เจอ แล้วถึงจะมองฝั่งขึ้นต่อไป

AU

UV

GOLD

PM

ตัวอย่างของกราฟที่เป็นขาลงแล้วเริ่มจะกลับตัวเป็นขาขึ้น

TACC

ETE

ศึกษาหุ้น ICHI จุดกลับตัว

จุดสังเกตุ

• ที่แนวรับสำคัญแนวหนึ่งมีแรงขายลงไปแล้วหลายรอบไม่ผ่านอาจะ 2-3 รอบ volumำ ขายลดลง
• เริ่มมี volume ของฝั่งซื้อเข้ามามากว่า 1 ครั้งที่แนวรับนี้ราคาเริ่มยกตัวขึ้น
• แรงขายที่ขายออกมาหลังจากมี volume ซื้อจะเริ่มลดลง
• แรงซื้อเริ่มมากกว่าแรงขายราคายกตัวขึ้นทะลุแนวต้านสำคัญของฝั่งขาย ที่จุดเปลี่ยนเทรน
• ที่จุดเปลี่ยนเทรนมีแรงขายออกมา แต่ราคายืนได้ volume ขายน้อยลง
• ที่จุดนี้มีแรงซื้อกลับและก็ส้รางเทรนขาขึ้นต่อไป โดยใช้เส้น Trend line ตีดูการเคลื่อนตัวของคลื่น

จุดกลับตัวของ ICHI

ศึกษาหุ้น CHG & BJC

จุดสังเกตุ

• พฤติกรรมจบขาลง
• พฤติกรรมของแรงขายที่จุดเปลี่ยนเทรน
• พฤติกรรมของแรงซื้อที่จุดเปลี่ยนเทรน
• พฤติกรรมการเปลี่ยนจากขาลงเป็นขาขึ้น

CHG

BJC

ศึกษาหุ้น TKN & SAWAD

จุดสังเกตุ

• พฤติกรรมของการเปลี่ยนเทรน 
• การสังเกตุพฤติกรรม ณ.จุดเปลี่ยนเทรน
• แนวรับแนวต้านสำคัญ

TKN

SAWAD

ศึกษาหุ้น CBG

จุดสังเกตุว่าจะเปลี่ยนเทรนรึยัง

• สังเกตุ sw ไปที่ละช่วงมีซื้อก็ต้องมีขายดู แรงซื้อและแรงขายว่าเป็นอย่างไร
• แบ่งออกเป็นช่วงๆ ของ sw volume จะลดลงและช่วงท้ายจะเริ่มเห็นจุดเปลียนเทรน
• แรงซื้อและแรงขายจะสู้กันสักพักถ้าเริ่มเห็นราคาไหลไปด้านไหน แล้วยืนได้ก็แสดงว่าฝั่งนั้นเริ่มมี momentum แล้ว
• สังเกตุที่จุดเปลี่ยนเทรนว่าราคายืนได้ไหม ถ้าอีกฝั่งไม่ยอมให้ไปก็มีแรงซื้อหรือแรงขายออกมาที่จุดนี้ แต่ถ้าสามารถยืนได้ก็จะเป็นจุดเริ่มต้นของเทรนต่อไป
• ให้สังเกตุ ณ.จุดเปลี่ยนเทรนนี้ว่ามีแรงของฝั่งตรงข้ามเข้ามามากหรือน้อยและมีแรงดันราคาไปในทิศทางเดิมต่อไหม แล้วค่อยหาจังหวะเข้าตามไป
• ถ้าราคายืนได้ให้ใช้วิธีการเข้า ที่เหมาะสมกับจุดนั้นๆ คือ buy on diff หรือ brake out

 

CBG 60 Minute

IQ Option

เงื่อนไขการเทรด

• เวลา sw ขึ้นไปจะมีแรงขายกดลงมา เวลาลงก็จะมีแรงซื้อดันขึ้นมาเพราะฉะนั้นช่วงนี้เดาทางลำบาก ไม่จำเป็นไม่เล่น
• ขึ้นแบบไม่มีแรง แท่งเทียนสั้น เหมือนว่าถ้ามีแรงขายก็พร้อมจะลงตลอดเวลาไม่เล่น
• ขึ้นไปแล้วเจอแนวต้าน ขายใส่เป็นแท่งเทียนมีหาง1-2 แท่งแสดงว่ามีแรงขายอยู่ รอให้ฝั่งหนึ่งเป็นผู้ชนะก่อนแล้วค่อยพิจารณาหาจุดเข้า
• sw แท่ง Histogram ติดเส้น 0 ไม่เล่นไม่ว่าจะจะอยุ่ฝั่งขึ้นหรือลง รอให้เริ่มวิ่งออกจากเส้น 0 แล้วดูทิศทางที่เคลื่นที่อีกที
• เฝ้าและติดตามการเคลื่อนตัวของกราฟเพื่อรอจังหวะที่ดีที่เราคุ้นเคย 
• เข้าจังหวะที่เริ่มเห็นอาการว่าอยากขึ้นและอยากลงแล้วจะเป็ยช่วงท้ายๆของ sw หรือขึ้นลงแล้วมีการพักตัวแล้วจะเห็นกราฟเคลื่อนตัวไปยังทิศทางที่จะไป 

หลักการคร่าวๆ

• ดูเทรนหลักของ 3 ชม.ว่าเป็นเทรนไหนแล้วค่อยพิจารณาที่ 30 ms 
• ดู ลักษณะของ MACD ว่าขึ้นหรือลงเล่น 4 ช่วง

         1. ช่วงที่ MACD ขึ้นไปบนสุดแล้วตัดลง
         2. ช่วงที่ MACD ลงไปลึึกแล้วกลับตัวตัดกับเส้น signal   
         3. ช่วงที่ MACD ตัดเส้น 0 ขึ้นหรือลงอาจจะเข้าได้ 1-2 เท่านั้นแล้วจะพักตัว
         4. ช่วงที่วิ่งเป็น trade ชัดเจนแต่ดูว่าแข็งแรงหรือไม่แข็งแรงเข้าตามจังหวะวิ่งพักรอ

• เล่นตอนที่มี momentum เท่านั้นจะมีแรงเฉื่อนให้พอทำกำไรได้ 
• ก่อนเข้าดูเวลาที่คิดว่าน่าจะมีเวลาพอที่ราคายังเคลื่อนตัวไปทิศทางที่เราคาดไว้
• ดูตลาดด้วยว่าวันนั้นตลาดเป้นอย่างไงมี เทรนชัดเจน หรือ sw เลือกการเทรดให้ถูกกับตลาด
• เล่นย่อ long เด้ง short ตามทิศทางของเทรนหลักเท่านั้นความเสี่่ยงจะน้อยลง
• สรุปผลการเทรดแล้วดูว่าระบบการเทรดตรงกับธรรมชาติของกราฟแค่ไหน แล้วปรับเปลี่ยนให้ตรงกับธรรมชาติของการเคลื่อนตัวของกราฟมากที่สุด

หลักการปิดประตูของผู้แพ้

• ตั้งเป้าหมายของผู้ชนะให้ชัดเจนแล้ววิธีการก็จะชัดตามมา แล้วปรับให้ดีขึ้นเรื่อยๆ
• เล่นแล้วจุดไหนที่แพ้ศึกษามันว่าเพราะอะไรแล้วแก้ไข หรือเลี่ยงจุดนี้ไป
• จุดไหนทีเสียบ่อยๆแสดงว่าเป็นจุดที่มีความเสี่ยงสูงหลีกเลี่ยงซะ
• ศึกษาธรรมชาติของการเคลื่อนตัวของราคาแล้วหาจุดที่เสี่ยงน้อยที่สุดในการทำกำไร
• หาจุดผิดพลาดของตัวเองว่าพลาดจุดไหน ปรับปรุงซะ
• สรุปผลการเทรดรายวันเพื่อ หาจุดผิดพลาดของตัวเองแล้วแก้ไขที่ละข้อให้ลดลงเรื่อยๆ